ข่าวที่ทั่วทั้งโลกจับตาอยู่ในขณะนี้ หนีไม่พ้นการเสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกของ “เยฟกินี พริโกซิน” หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้าง “แวกเนอร์” (Wagner) หนึ่งในกำลังสำคัญของรัสเซียในการรุกรานยูเครน
หลายคนอาจจะทราบเพียงบทบาทของเขาในฐานะหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้าง แต่เส้นทางชีวิตของพริโกซินจริง ๆ แล้วมีความน่าสนใจมาก เพราะจากอดีตนักโทษ ผันตัวมาสู่การเป็นคนขายฮอตดอก และกลายเป็นหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างในที่สุด
เยฟกินี พริโกซิน เกิดที่เมืองเลนินกราด (ปัจจุบันคือเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก) เมื่อปี 1961 มีอายุอ่อนกว่าผู้นำรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน 9 ปี
พ่อของเขาเสียชีวิตตั้งแต่เขายังเด็ก ส่วนแม่ของเขาทำงานในโรงพยาบาล ในวัยเด็กเขาถูกส่งไปยังสถาบันการกีฬา ซึ่งกิจกรรมในแต่ละวันมักจะต้องเล่นสกีทางไกลเป็นเวลาหลายชั่วโมง
เขาไม่ผ่านการคัดเลือกในฐานะนักกีฬามืออาชีพ และหลังจากเรียนจบเขาก็ไปมั่วสุมอยู่กับแก๊งอาชญากรกลุ่มเล็ก ๆ
วันหนึ่งของเดือนมีนาคมปี 1980 ซึ่งเป็นช่วงท้าย ๆ ที่ เลโอนิด เบรซเนฟ ปกครองสหภาพโซเวียต พริโกซินซึ่งขณะนั้นอายุได้ 18 ปีและเพื่อนอีก 3 คน ได้ออกจากร้านกาแฟแห่งหนึ่งในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กตอนใกล้เที่ยงคืน และเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินตามลำพังไปตามถนนอันมืดมิด
เพื่อนคนหนึ่งของพริโกซินเข้าไปกวนใจคุกคามผู้หญิงคนนั้นด้วยการขอบุหรี่ ขณะที่เธอเปิดกระเป๋าเงิน พริโกซินก็ลอบเข้าไปที่ข้างหลังแล้วคว้าคอของเธอไว้ บีบคอจนเธอหมดสติ จากนั้นเพื่อนของเขาก็ถอดรองเท้าของเธอออก ขณะที่พริโกซินถอดต่างหูทองของเธอไป จากนั้นทั้งสี่คนก็วิ่งออกไป ปล่อยให้ผู้หญิงรายนั้นนอนอยู่บนถนนคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นั่นเป็นเพียง “หนึ่งในคดี” ที่พริโกซินและผองเพื่อนก่อในกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือน เขาถูกตัดสินจำคุก 13 ปี และใช้เวลา 10 ปีอยู่หลังลูกกรง
เขาได้รับการปล่อยตัวในปี 1990 ในขณะที่สหภาพโซเวียตกำลังตกอยู่ในภาวะลำบาก เขากลับมาที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และเป็นโอกาสสำหรับการสร้างเนื้อสร้างตัว ซึ่งพริโกซินที่เพิ่งออกจากเรือนจำ ตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการเปิดร้านขายฮอตดอก
พริโกซินเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ตอนนั้นเราทำเงินได้เดือนละ 1,000 ดอลลาร์ มีธนบัตรรูเบิลกองเป็นภูเขา แม่ของผมแทบจะนับไม่หวาดไม่ไหว”
แต่พริโกซินมีสายตาที่กว้างไกลกว่านั้น เขาไม่ต้องการเป็นแค่พ่อค้าอาหารจานด่วน และเขารู้วิธีที่จะไปยังเป้าหมายที่เขาต้องการ นักธุรกิจที่รู้จักพริโกซินเล่าว่า “เขามองหาและพยายามเป็นเพื่อนกับคนที่สูงส่งกว่าเสมอ และเขาก็ทำได้ดี”
ไม่นานนัก พริโกซินก็เป็นเจ้าของหุ้นในเครือซูเปอร์มาร์เก็ตเจ้าหนึ่ง และในปี 1995 เขาตัดสินใจว่า ถึงเวลาเปิดร้านอาหารร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจของเขา เขาได้พบกับ โทนี เกียร์ ผู้บริหารโรงแรมชาวอังกฤษ
พริโกซินจ้างเกียร์ให้บริหารจัดการร้านขายไวน์ก่อน จากนั้นจึงเปิดร้านอาหารใหม่ของเขา Old Customs House บนเกาะวาสิเลียฟสกี ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ในตอนแรก ร้าน Old Customs House ใช้นักเต้นระบำเปลื้องผ้าเพื่อดึงดูดลูกค้า แต่ไม่นานก็มีข่าวว่าอาหารอร่อยมาก และนักเต้นระบำเปลื้องผ้าก็ถูกไล่ออก จากนั้นเกียร์ก็มุ่งเน้นไปที่การทำการตลาดให้ร้านอาหารแห่งนี้เป็นสถานที่รับประทานอาหารที่หรูหราที่สุดในเมือง
ร้านของพริโกซินมีลูกค้ามากหน้าหลายตา ทั้งดารา ศิลปิน และนักธุรกิจ ต่างชอบมารับประทานอาหารที่นั่น เช่นเดียวกับ อนาโตลี ซ็อบชัก นายกเทศมนตรีเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งบางครั้งก็มาพร้อมกับ วลาดิเมียร์ ปูติน ซึ่งขณะนั้นเป็นรองนายกเทศมนตรีเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ต่อมาเมื่อปูตินกลายเป็นประธานาธิบดีของรัสเซีย ในช่วงปีแรก ๆ ของการครองอำนาจ เขามักชอบพบปะบุคคลสำคัญจากต่างประเทศในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก บ้านเกิดของเขา และบางครั้งเลือกร้านอาหารของพริโกซินเป็นสถานที่รับรองอาคันตุกะ นั่นนับเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของร้านอาหารกับประธานาธิบดีรัสเซีย ที่เติบโตไปในทางที่ ณ เวลานั้น พวกเขาก็คงคาดไม่ถึง
หลังจากนั้นไม่นาน พริโกซินก็เริ่มได้รับสัญญาจ้างเพื่อช่วยจัดงานสำคัญ ๆ ของรัฐบาลรัสเซีย จนได้รับฉายาว่า “พ่อครัวของปูติน”
โอกาสครั้งสำคัญในชีวิตของพริโกซินมาถึง เมื่อรัสเซียผนวกภูมิภาคไครเมียของยูเครนในเดือนมีนาคม 2014 และเข้าแทรกแซงในพื้นที่ยูเครนตะวันออก ซึ่งปูตินปฏิเสธว่า กองทหารของรัสเซียไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แม้จะมีหลักฐานมากมายที่ขัดแย้งกันก็ตาม
ปูตินเริ่มคิดว่า จะทำให้อย่างไรให้คำปฏิเสธดูน่าเชื่อถือ คำตอบคือการมีผู้เล่นตัวใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลรัสเซียโดยตรงขนาดนั้น นั่นก็คือ “ทหารรับจ้างเอกชน”
นี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของกลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์ ซึ่งมีพริโกซินเป็นผู้ก่อตั้ง อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียรายหนึ่งซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ กล่าวว่า “ผมคิดว่าพริโกซินเสนอเรื่องนี้ให้ปูติน และเขาก็เห็นด้วย”
แต่ก็มีอีกแนวคิดหนึ่งว่า จริง ๆ แล้วแวกเนอร์เป็นโครงการของหน่วยข่าวกรองรัสเซีย (GRU) ที่ถูกเปลี่ยนมือมาให้พริโกซิน กระนั้น โลกในปัจจุบันก็ยอมรับสถานะการเป็น “หนึ่งในผู้ก่อตั้งแวกเนอร์” ของเขา
จากนั้น รัฐบาลรัสเซียได้จัดหาที่ดินให้กับพริโกซินในเมืองมอลกิโน (Molkino) ทางตอนใต้ของรัสเซีย ซึ่งบริษัทต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกับพริโกซินได้สร้างฐานทัพสำหรับทหารรับจ้างขึ้น โดยบังหน้าว่าเป็นแคมป์สำหรับเด็ก
อำนาจของพริโกซินที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เริ่มสร้างความรำคาญแก่เจ้าหน้าที่บางคนในกระทรวงกลาโหม ซึ่งนำมาสู้ความไม่ลงรอยกันที่เพิ่มมากขึ้น ดังจะเห็นได้ชัดในช่วงสงครามยูเครนที่พริโกซินเคยออกมาด่ากราดกระทรวงกลาโหม
ช่วงเวลาสำคัญของพริโกซินเกิดขึ้นในปลายปี 2015 เมื่อปูตินตัดสินใจเข้าแทรกแซงในซีเรียเพื่อช่วยเหลือระบอบการปกครองของ บาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งพริโกซินชนะการประมูลสัญญาด้านอาหารและเสบียง และส่งกองกำลังแวกเนอร์ของเขาไปที่นั่นด้วย
ในซีเรีย แวกเนอร์ได้ประกาศศักดาเป็นครั้งแรกในฐานะกองกำลังต่อสู้ที่น่าเกรงขาม โดยแวกเนอร์มีบทบาทสำคัญในการแทรกแซงซีเรียของรัสเซีย เครื่องบินรบของแวกเนอร์สามารถปฏิบัติการโดยไม่ต้องรับโทษในซีเรีย และถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมสงครามหลายครั้ง
ปัจจุบัน กิจกรรมของพริโกซินและแวกเนอร์ได้แพร่กระจายไปยังอย่างน้อย 10 ประเทศในแอฟริกา ซึ่งเขาให้บริการด้านการรักษาความปลอดภัยและการฝึกอบรมด้านอาวุธ ตลอดจนสิทธิในการขุดเหมืองและโอกาสทางธุรกิจอื่น ๆ
นอกจากนี้ แม้ว่าเขาจะไม่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ แต่พริโกซินก็มีสิทธิ์เข้าร่วมในการประชุมระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและการป้องกันประเทศ
ต่อมาเมื่อปูตินประกาศรุกรานยูเครนอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 ก็ทำให้แวกเนอร์มีเวทีในการแสดงศักยภาพอีกครั้ง และผลงานที่ทำได้ดีกว่ากองทัพรัสเซียในช่วงหลังก็ทำให้เขามักออกแถลงการณ์โจมตีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ในขณะเดียวกันก็บอกว่าแวกเนอร์ไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควร
ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ความไม่พอใจของเขาที่มีต่อกระทรวงกลาโหมรัสเซียก็ได้นำมาสู่การ “ก่อจลาจลด้วยอาวุธ” ยกทัพมุ่งหน้าไปยังกรุงมอสโก ซึ่งแม้เรื่องนี้จะคลี่คลายอย่างรวดเร็ว จากการที่ประเทศเบลารุสเข้ามาเป็นตัวกลางในการเจรจา แต่หลายคนก็ประเมินว่า การกระทำครั้งนี้ของพริโกซินทำให้ปูตินเสียหน้าอย่างมาก และอาจส่งผลให้เกิด “อะไร ๆ” ขึ้นกับเขาได้
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุเครื่องบินส่วนตัวลำหนึ่งตกทางตอนเหนือของกรุงมอสโก โดยผู้อยู่บนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด 10 ราย หนึ่งในนั้นคือ “เยฟกินี พริโกซิน” นับเป็นจุดจบของชายที่ความทะเยอทะยานชักนำชีวิต จากพ่อค้าขายฮอตดอก กลายมาเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์รัสเซีย
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก Sergei ILNITSKY / POOL / AFP , Handout / TELEGRAM/ @concordgroup_official / AFP