หลังจากยืดเยื้อมานาน ในที่สุดวันที่ 29 ม.ค. ศาลฮ่องกงก็มีคำสั่งตัดสินให้ “เอเวอร์แกรนด์” (Evergrande Group) ยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่มีหนี้สินมากที่สุดในโลก ต้องชำระบัญชี (Liquidation) หรือขายสินทรัพย์เพื่อชำระหนี้
คำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่เอเวอร์แกรนด์และเจ้าหนี้ในต่างประเทศล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้ก้อนใหญ่ของบริษัท
ผู้นำคิมคุมการทดสอบขีปนาวุธใหม่ “พุลฮวาซัล-3-31” ด้วยตัวเอง
คืนชีพ! “SLIM” ยานสำรวจดวงจันทร์ของญี่ปุ่น กลับมาทำงานแล้ว
ห้างดังอังกฤษเตรียมปลดพนักงานกว่า 10,000 คน
ที่ผ่านมา ศาลฮ่องกงเคยผ่อนผันขยายระยะเวลาให้เอเวอร์แกรนด์ไปเจรจาปรับโครงสร้างหนี้หลายครั้งแล้ว แต่เอเวอร์แกรนด์ก็ล้มเหลวมาโดยตลอด
ศาลจะจัดให้มีการพิจารณาคดีอีกครั้งในช่วงบ่ายวันที่ 29 ม.ค. “เพื่อบังคับใช้คำสั่ง” ซึ่งอาจนำไปสู่การแต่งตั้งผู้ชำระบัญชี
บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่นี้ผิดนัดชำระหนี้ในต่างประเทศมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2021 และกลายเป็นต้นเหตุของวิกฤตหนี้ภาคอสังหาริมทรัพย์จีนนับตั้งแต่นั้นมา โดยมีหนี้สินรวมกว่า 3.28 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 11.7 ล้านล้านบาท) ณ สิ้นเดือนมิ.ย. ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ บริษัทเอเวอร์แกรนด์มีสินทรัพย์อยู่ 2.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (8.5 ล้านล้านบาท) เท่านั้น
ความจริงแล้วเอเวอร์แกรนด์ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาออกไปอีกครั้ง เนื่องจากทนายความกล่าวว่า “มีความคืบหน้าเล็กน้อย” ในข้อเสนอการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ โดยในข้อเสนอล่าสุด เอเวอร์แกรนด์เสนอให้เจ้าหนี้แลกเปลี่ยนหนี้เป็นหุ้นทั้งหมดที่บริษัทถืออยู่ เทียบกับสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 30%
แต่ ลินดา ชาน ผู้พิพากษาศาลฮ่องกง กล่าวว่า จากความล่าช้าหลายเดือนและการเลื่อนพิจารณาคดีของศาลหลายครั้ง “ถึงเวลาแล้วที่ศาลจะต้องบอกว่า พอแล้ว”
ทนายความของเอเวอร์แกรนด์แย้งว่า การชำระบัญชีอาจส่งผลเสียต่อการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงการจัดการทรัพย์สินและหน่วยยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อความสามารถของกลุ่มในการชำระคืนเจ้าหนี้ทั้งหมดคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
อย่างไรก็ตาม คาดว่ากระบวนการขายทรัพย์สินและยึดทรัพย์สินเพื่อชำระหนี้นี้จะกินเวลานาน เรื่องจากกระบวนการในจีนแผ่นดินใหญ่ที่ซับซ้อนและยืดเยื้อ
แกรี อึ้ง นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ Natixis กล่าวว่า “นี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่เป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการชำระบัญชีที่ยืดเยื้อ … เนื่องจากสินทรัพย์ส่วนใหญ่ของเอเวอร์แกรนด์อยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ จึงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับวิธีที่เจ้าหนี้จะสามารถยึดทรัพย์สินและจัดลำดับการชำระหนี้ของผู้ถือหุ้นกู้ในต่างประเทศ และสถานการณ์อาจเลวร้ายยิ่งขึ้นสำหรับผู้ถือหุ้น”
ก่อนการพิจารณาคดี หุ้นของเอเวอร์แกรนด์ร่วงไปถึง 20%
ด้าน เฟอร์กัส ซอริน หุ้นส่วนของ Kirkland & Ellis ที่เคยให้คำแนะนำผู้ถือหุ้นกู้ กล่าวว่า “เราไม่แปลกใจกับผลลัพธ์นี้” โดยบอกว่า การเจรจาระหว่างเอเวอร์แกรนด์และกลุ่มเจ้าหนี้ล้มเหลวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากข้อเสนอล่าสุดที่เสนอโดยนักพัฒนาจะส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของเจ้าหนี้บางราย
เรียบเรียงจาก CNN / Reuters
ผลบอลเอเชียน คัพ 2023 ออสเตรเลีย-ทาจิกิสถาน เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย
สยองกลางโรงเรียนย่านพัฒนาการ นักเรียนแทงเพื่อนหลังเลิกแถวหน้าเสาธง เสียชีวิต 1 ราย
มารู้จัก "เจ๋ง ดอกจิก" ตัวละครเอี่ยว "ศรีสุวรรณ" ขู่เรียกรับสินบน